ตายแล้วไปไหน
ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างไร
รายละเอียดของยมโลกแต่ละขุม
ขุมที่ 1 โลหกุมภีนรก
โลหกุมภีนรกคือ นรกหม้อเหล็กร้อน มีลักษณะเป็นหม้อเหล็กขนาดใหญ่เท่าภูเขา เต็มไปด้วยน้ำร้อนเดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา ตั้งอยู่บนเตาไฟนรก กุมภัณฑ์จับสัตว์นรกที่ข้อเท้า 2 ข้างแล้วเอาหัวคว่ำลง หย่อนทิ้งลงไปในหม้อเหล็ก สัตว์นรกได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสยมโลกขุม 1 รองรับพวกทำกรรมฆ่าสัตว์บางครั้งนายกุมภัณฑ์ก็เอาเชือกเหล็ก แดงลุกเป็นเปลวไฟ ไล่กระหวัดรัดคอแล้วบิดจนกระทั่งคอขาด เอาศีรษะที่ขาดลงไปทอดในหม้อเหล็กแดง สัตว์นรกก็ยังไม่ตาย มีหัวใหม่เกิดขึ้นมาอีก แล้วก็จะถูกกระทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะหมดกรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ ทำกรรมฆ่าสัตว์ เช่น จับเอาสัตว์เป็นๆ มาใส่ลงในหม้อน้ำร้อนเพื่อเอามาทำเป็นอาหาร หรือไม่ก็ทำกรรมชั่วอย่างอื่น แต่ภายหลังสำนึกผิดจึงพยายามประกอบสิ่งที่เป็นกุศล
ขุมที่ 2 สิมพลีนรก
สิมพลีนรก คือ นรกป่าไม้งิ้ว มีลักษณะเป็นป่าไม้งิ้ว ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมเป็นกรด ยาวประมาณ 16 องคุลี ลุกเป็นไฟเสมอไม่มีวันดับ นรกขุมนี้เต็มไปด้วยสัตว์นรกชายหญิง บางเวลาสัตว์นรกหญิงขึ้นไปคอยอยู่บนต้นงิ้วก่อน สัตว์นรกชายก็จะถูกนายนิรยบาลทุบตีด้วยหอก แหลน หลาว ขู่ตะคอกให้ขึ้นไป ด้วยความกลัวจึงต้องปีนป่ายต้นงิ้วจนเลือดสาดไปทั่วทั้งตัว จนสัตว์นรกต้องอ้อนวอนยมบาล ยมบาลก็ยิ่งกระหน่ำตี แทง ซ้ำลงไปอีก พอไปถึงปลายยอดงิ้วนั้น ทั้งๆ ที่เจ็บปวดปิ่มว่าจะขาดใจ สัตว์นรกหญิงพลันตกลงมาเบื้องล่างในทันที นายนิรยบาลก็จะใช้หอก หลาว ทิ่มแทง ขับไล่ไสส่งให้ป่ายปีนขึ้นไปอีก แม้เลือดเนื้อจะสาดท่วมตัวมากมายขนาดไหนก็ตาม สัตว์นรกชายหญิงก็จะเวียนปีนป่ายต้นงิ้วอยู่อย่างนั้น
หนามแหลมคมลุกเป็นไฟไม่เคยดับสัตว์นรกบางตัวในขณะที่กำลังป่ายปีนอยู่นั้น ก็จะถูกแร้งกาซึ่งมีปากเป็นเหล็กคอยจิก ทึ้ง อวัยวะน้อยใหญ่กินเป็นภักษาหาร ให้ได้รับความทุกข์ทรมานหนักยิ่งขึ้น ครั้นตกลงมาข้างล่างก็ถูกสุนัขนรกตัวใหญ่มหึมา รุมกัดกินเนื้อสัตว์นรกนั้น เป็นการสมทบช่วยทรมานสัตว์นรกอีกแรงหนึ่ง บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ได้ทำผิดศีลข้อที่ 3 คือ กาเมสุมิจฉาจาร คือ คบชู้ ถ้าเป็นชายก็เป็นชู้กับภรรยาของคนอื่น ถ้าเป็นหญิงก็เป็นชู้กับสามีของคนอื่น เป็นคนไม่มีหิริโอตตัปปะ ประพฤตินอกใจภรรยาสามีสัตว์นรกปีนต้นงิ้วถูกแร้ง กาปากเหล็กคอยจิก พอตกลงมาก็โดนสุนัขนรกกัดกิน
ขุมที่ 3 อสินขนรก
ในนรกขุมนี้สัตว์นรกมีรูปร่างพิกลพิการ เล็บมือเล็บเท้าแหลมยาว กลับกลายเป็นอาวุธ เป็นหอก เป็นจอบ เป็นเสียมอันคมกล้าสัตว์นรกมีเล็บยาวตะกุยกินเนื้อหนังตนเองอย่างนี้ตลอดกาลเอาเล็บตะกุยเนื้อหนังของตนกินเป็นภักษาหาร เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดกาล บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ชอบลักเล็กขโมยน้อย ในสถานที่ที่เป็นสาธารณะ ของที่เขาถวายแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขุมที่ 4 ตามโพทกนรก
ในนรกขุมนี้ มีหม้อเหล็กต้มน้ำทองแดงอยู่มากมาย พร้อมกับมีก้อนกรวด ก้อนหินปะปนอยู่ด้วยในหม้อเหล็กทุกๆ หม้อ นายนิรยบาลก็จะจับสัตว์นรกนั้นนอนหงายเหนือแผ่นเหล็กอันร้อนแรงด้วยเปลวไฟ แล้วเอาน้ำทองแดงพร้อมกับก้อนกรวดก้อนหิน กรอกเข้าปากสัตว์นรกนั้น อวัยวะต่าง ๆ ก็แตกเปื่อยพังทลาย แล้วก็เกิดขึ้นมารับกรรมอย่างนี้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะสิ้นกรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ดื่มสุราเมรัย แสดงอาการคล้ายกับคนบ้า วิกลจริต เป็นประจำ
สัตว์นรกที่ต้องรับกรรมตามการกระทำที่ตนเคยทำไว้
ขุมที่ 5 อโยคุฬนรก
เป็นนรกที่เต็มไปด้วยก้อนเหล็กแดงลุกเป็นไฟเกลื่อนกลาดไปหมด ไม่ว่าจะมองไปทางใด สัตว์นรก ต่างก็มีความหิวโหยอย่างสุดจะประมาณได้ ด้วยกรรมที่ทำเอาไว้ จึงทำให้สัตว์นรกเหล่านั้น เห็นก้อนเหล็กแดงเป็นอาหารอันโอชะ รีบไปยื้อแย่งกันกิน พอเคี้ยวกลืนลงไป ก็ไหม้ไส้พุงให้ขาดกระจัดกระจายเรี่ยราดออกมาให้สัตว์นรกนั้นได้รับ ทุกขเวทนา บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์มีความโลภมาก เที่ยวป่าวประกาศบอกบุญให้คนเอาทรัพย์มาให้ จะเอาไปทำการกุศล แต่กลับนำเอาทรัพย์มาใช้สอยตามสะดวกสบายของตน การกุศลก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้างตามที่อ้างไว้ บางทีก็ไม่ทำเลย
ขุมที่ 6 ปิสสกปัพพตนรก
ในนรกขุมนี้ มีภูเขาใหญ่ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศ เป็นภูเขาที่เคลื่อนที่ได้ไม่หยุดหย่อน กลิ้งบดสัตว์นรกทั้งหลายให้ตาย แล้วก็กลับมีชีวิตขึ้นมาอีก แล้วก็ถูกกลิ้งบดทับอีก ให้ได้รับทุกข์ทรมานอย่างนี้ไปเรื่อยไม่ได้ว่างเว้น บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เคยเป็นเจ้าคนนายคน เช่น เป็นนายบ้าน เป็นนายอำเภอ เป็นเจ้าบ้านผ่านเมือง แต่ประพฤติตนเป็นอันธพาล กดขี่ข่มเหงราษฎร ทำให้ประชาชนพลเมืองเดือดร้อน เช่น ทุบตีเขา เอาทรัพย์เขามาให้เกินพิกัดอัตราที่กฎหมายกำหนด ครั้นตายไป จึงต้องมาเกิดอยู่ ในนรกขุมนี้
สัตว์นรกต้องทนทุกข์อยู่ในนรกจนกว่าจะสิ้นกรรม
ขุมที่ 7 ธุสนรก
ในนรกขุมนี้ สัตว์ที่มาเกิดล้วนแต่มีความหิวกระหาย วิ่งวุ่นกระเสือกกระสนไปทั่วทั้งนรก พอเห็นมีสระเต็มไปด้วยน้ำใสเย็นสะอาด ก็รีบวิ่งกระโดดลงเพื่อจะกิน อาบ พอดื่มกินเข้าไป น้ำตกถึงท้องก็กลายเป็นแกลบ เป็นข้าวลีบลุกเป็นเปลวไฟ แล้วไหม้ไส้ใหญ่ไส้น้อย ให้ได้รับความเจ็บปวด เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นพ่อค้าที่คดโกง ไม่มีความซื่อสัตย์ มีความโลภอยู่ในจิตใจอย่างมากมาย เอาของไม่ดีปนกับของดี เอาของแท้ปนกับของเทียม แล้วนำไปหลอกขายผู้อื่น จะต้องทนทุกข์อยู่ในนรกขุมนี้จนกว่าจะสิ้นกรรม
ขุมที่ 8 สีตโลสิตนรก
ในนรกขุมนี้ มีน้ำเยือกเย็นยิ่งกว่าความเย็นทั้งหลาย สัตว์นรกเมื่อตกลงไปต้องตายด้วยความเย็น แต่ด้วยอำนาจของกรรมทำให้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีก จากนั้นพากันคลานขึ้นมาข้างบน แต่นายนิรยบาลก็จับสัตว์นรกเหล่านั้น โยนลงไปในน้ำเย็นอีก ถูกความเย็นเบียดเบียนจนตายอีก ตายเกิดอย่างนี้ตลอดเวลาจนกว่าจะสิ้นกรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นผู้มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบจับสัตว์เป็นๆ ลงในบ่อเหว ในสระน้ำ หรือมัดสัตว์ทิ้งน้ำให้จมน้ำตาย ทำเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายให้ได้รับความทุกข์ตายเพราะน้ำ
ขุมที่ 9 สุนขนรกในนรกขุมนี้ มีน้ำเยือกเย็นยิ่งกว่าความเย็นทั้งหลาย สัตว์นรกเมื่อตกลงไปต้องตายด้วยความเย็น แต่ด้วยอำนาจของกรรมทำให้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีก จากนั้นพากันคลานขึ้นมาข้างบน แต่นายนิรยบาลก็จับสัตว์นรกเหล่านั้น โยนลงไปในน้ำเย็นอีก ถูกความเย็นเบียดเบียนจนตายอีก ตายเกิดอย่างนี้ตลอดเวลาจนกว่าจะสิ้นกรรม คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นผู้มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ เป็นคนใจบาปหยาบช้า ชอบจับสัตว์เป็นๆ ลงในบ่อเหว ในสระน้ำ หรือมัดสัตว์ทิ้งน้ำให้จมน้ำตาย ทำเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายให้ได้รับความทุกข์ตายเพราะน้ำ
นรกขุมนี้เต็มไปด้วยสุนัขนรก เมื่อจำแนกก็จะมีสุนัขนรกอยู่ 5 เหล่า
1. สุนัขนรกดำ
2. สุนัขนรกขาว
3. สุนัขนรกเหลือง
4. สุนัขนรกแดง
5. สุนัขนรกด่างสุนัขนรกรุมกัดสัตว์นรกจนเป็นชิ้นๆ ตายแล้วตายอีกจนกว่าจะสิ้นกรรม
บรรดาสุนัขนรกเหล่านั้น จะมีรูปร่างใหญ่โต น่ากลัว ส่งเสียงเห่าหอนดังเหมือนฟ้าลั่นฟ้าร้องก้องไปทั่วนรก สัตว์นรกที่เกิดในขุมนี้จะถูกสุนัขนรกไล่กัดอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะมีสุนัขนรกแล้วยังมีฝูงนกฝูงกา นกตะกรุมอีกมากมายหลายฝูง แร้งกา นกตะกรุมเหล่านั้นมีลักษณะแปลกประหลาด คือ ที่ปากและเท้าของมันมีเหล็กลุกแดงเป็นไฟ เวลาที่มันเห็นสัตว์นรกก็จะพากันมาจิกตรงลูกตา และแหวกอกสัตว์นรกทั้งหลายให้แตกทำลายกระจุยกระจาย แล้วก็เคี้ยวกิน แม้จะตายแล้ว ก็กลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ แล้วก็รับการทรมานเหมือนอย่างเดิมอีก จนกว่าจะสิ้นกรรมเวียนตายเวียนเกิดในนรกจนกว่าจะหมดกรรมบุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ เป็นคนปากกล้า ด่าว่าบิดามารดา ปู่ย่าตายาย พี่ชาย พี่หญิง ด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ หรือเมื่อโกรธขึ้นมา ก็ด่าว่าไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ แม้ผู้ทรงศีลธรรม มีสมณชีพราหมณ์ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร เป็นต้น ไม่เลือกหน้าว่าจะเป็นใคร
ขุมที่ 10 ยันตปาสาณนรก
นรกขุมนี้เป็นขุมสุดท้าย ในนรกมีภูเขา 2 ลูก เป็นภูเขานรกแปลกประหลาด คือ เป็นภูเขายนต์หันกระทบกันเป็นจังหวะไม่หยุดหย่อน กุมภัณฑ์มีร่างกายกำยำก็จะจับสัตว์นรกโยนเข้าไปในระหว่างเขาทั้ง 2 ภูเขาก็จะเคลื่อนกระทบกันในทันที ร่างกายของสัตว์นรกเหล่านั้นก็จะแตกละเอียดป่นปี้ ด้วยแรงกระแทกของภูเขานั้น ถ้าจะเปรียบภูเขานรกนั้น เปรียบเหมือนกับหีบอ้อยฝนที่หีบอ้อยสดให้น้ำไหลออกมา ชีวิตก็จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนรกขุมนี้ ไม่รู้จักหมดสิ้น จนกว่าจะสิ้นกรรม บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ชายหญิง ได้ทุบตีด่าคู่ครองของตนด้วยความโกรธ ถ้าเป็นสามี เมื่อมีความโกรธก็ทุบตีด่าทอภรรยา ถ้าเป็นภรรยา เมื่อโกรธขึ้นมาก็ด่าว่าสามี คว้าไม้คว้ามีดไล่ตีไล่ฟัน แล้วก็คบชู้ประพฤตินอกใจ คบหาเป็นสามี ภรรยาของคนอื่นตามชอบใจ พอตายแล้วก็มาเสวยทุกข์อยู่ในนรกนี้
เรื่องยมโลกเป็นเรื่องที่น่าศึกษา เพราะเป็นภพที่ใกล้กับมนุษย์บางคนไม่เชื่อ แถมเอาเรื่องราวของพญายมราชมาล้อเล่นสนุกปากกันไป เป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากเราได้ติดตามข่าวสารคงจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องคนที่ตายแล้วฟื้น โดยตายไป 7 วัน ได้พบเรื่องราวต่างๆ เหมือนฝัน แต่ว่ารู้สึกนาน แล้ว กลับมาเล่าว่า ถูกพาไปสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งน่ากลัว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจบัญชีรายชื่อกลับพบว่า ถูกนำไปผิดตัว ต้องนำกลับมาส่ง เพราะยังไม่หมดอายุขัย ท่านผู้นี้ก็คือ พันเอกเสนาะ ผู้ตายแล้วฟื้น ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังมากเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา
นายนิรยบาลหรือผู้ชายนุ่งผ้าแดงที่ปู่ย่าตายายชอบเล่าให้ฟัง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่หลายคนเคยได้ยินจากปู่ย่าตายาย เมื่อเวลาคนจะตาย บางคนหวาดกลัว เหมือนมีใครจะมาทำร้าย หรือมีผู้ชายชุดแดงมายืนอยู่ตรงหน้า เรื่องราวที่เล่ามานี้ บางครั้งถ้าไม่ได้ประสบพบเจอกับตัวเอง ก็ยากที่จะเชื่อ แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่เชื่อ ก็ควรเผื่อเหนียวด้วยการทำความดีให้มากๆ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
โลกันตนรก (นรกขุมพิเศษ)
โลกันตนรกนี้ เป็นนรกขุมพิเศษอีกขุมหนึ่ง นอกจากมหานรก อุสสทนรก และยมโลกนรก เป็นขุมที่น่าศึกษา เพราะเป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่ทำอกุศลกรรมหนาแน่น เป็นนรกที่อยู่นอกจักรวาล อยู่ระหว่างโลกจักรวาล 3 โลก เปรียบเหมือนมีดอกบัว 3 ดอก มาชิดติดกัน จะเกิดช่องว่างในตรงกลาง บริเวณช่องว่างในตรงกลางนั้นเรียกว่า "โลกันตนรก"
สัตว์ที่มาเกิดในโลกันตนรกนี้มีร่างกายใหญ่โตยิ่งนัก มีเล็บมือเล็บเท้ายาว ต้องใช้เล็บมือเล็บเท้าเกาะอยู่ตามเชิงจักรวาล ห้อยโหนโยนตัวอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ เหมือนค้างคาวห้อยหัวอยู่บนกิ่งไม้ และก็จะรำพึงในใจว่า "ทำไม กูจึงมาอยู่ที่นี่ สงสัยจะมีเพียงกูผู้เดียวกระมัง" เหตุที่รำพึงเช่นนี้เพราะว่าโลกันตนรก นั้นมืดมิด ไม่มีแสงสว่างแม้เพียงนิดเดียว ต่างห้อยโหนโยนตัวเปะปะด้วยความหิวโหย พอตะครุบไปถูกตัวซึ่งกันและกัน จึงคิดว่าเป็นอาหาร ต่างปล้ำฟัดกันอยู่อย่างนี้ ไม่ช้าต่างก็พลัดตกลงไปในทะเลน้ำกรดอันเยือกเย็น เนื้อตัวร่างกายก็เปื่อยแหลกเหลว ตายไปในทันที แล้วก็กลับฟื้นขึ้นมาอีก ต้องได้รับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่มีวันสิ้นสุดชั่วพุทธันดร กัปหนึ่งจึงพ้นโทษจากโลกันตนรก บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เป็นคนประพฤติชั่วช้า ทำร้ายทรมานบิดามารดา หรือเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่เชื่อนรก ไม่เชื่อสวรรค์ ทำบาปกรรมชั่วช้าเป็นประจำ อีกประการหนึ่ง เป็นคนปากกล้า ด่าว่าบิดามารดา ปู่ย่าตายาย พี่ชาย พี่สาว ด้วยคำเจ็บแสบ หรือพอฉุนโกรธขึ้นมาก็ด่าว่าไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ แม้ผู้ทรงศีล เช่น สมณะ ชี พราหมณ์ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร
สัตว์นรกทั้งหลายจะถูกทรมานตามกรรมของตนที่เคยทำไว้ตอนมีชีวิตจากเรื่องนิรยภูมิทั้งหมดที่ผ่านมา จะเห็นสภาพโดยรวมของนรกแล้วว่า เป็นสถานที่หลังความตายฝ่ายทุคติ ที่มีแต่ความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเพียงฝ่ายเดียว ตั้งแต่การทรมานที่หนักที่สุดในมหานรก ที่ไม่มีเวลาว่างเว้นจากการได้หยุดพักทรมานเลย เมื่อหมดกรรมในมหานรกแล้ว ยังต้องมาถูกทรมานต่อในอุสสทนรก ซึ่งแม้ว่าการทัณฑ์ทรมานจะหย่อนลงไปบ้าง แต่ยังหนักหนาสาหัสอยู่ และเมื่อหมดกรรมจากอุสสทนรกแล้ว ยังต้องมาถูกทัณฑ์ทรมานต่อในยมโลก สำหรับผู้กระทำบาปอกุศลไว้มาก โดยในตอนต่อไปจะนำเสนอเรื่องเปตติวิสยภูมิ อันเป็นสถานที่อยู่ของชีวิตหลังความตายอีกภพภูมิหนึ่ง ที่มีความน่าสนใจเช่นเดียวกัน โปรดติดตามตอนต่อไปรับชมวิดีโอบทความที่เกี่ยวข้องกับตายแล้วไปไหน
ยมโลก ชีวิตหลังความตาย
ขุมที่ 1 โลหกุมภีนรก โลหกุมภีนรก คือ นรกหม้อเหล็กร้อน มีลักษณะเป็นหม้อเหล็กขนาดใหญ่เท่าภูเขา เต็มไปด้วยน้ำร้อนเดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา ตั้งอยู่บนเตาไฟนรก กุมภัณฑ์จับสัตว์นรกที่ข้อเท้า 2 ข้างแล้วเอาหัวคว่ำลง หย่อนทิ้งลงไปในหม้อเหล็ก สัตว์นรกได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส
บทความ Articles > ตายแล้วไปไหน Life After Death > อบายภูมิ[ 21 เม.ย. 2554 ] - [ : 18269 ]
|
Share Facebook |
Tag : | อุสสท สวรรค์ ศีลธรรม วิดีโอ ยมโลก มหานรก ปรโลก บุญ บริวาร นรก ธรรมะ ทุกข์ ตายแล้วไปไหน ดื่มสุรา ข่าว |
<< ก่อนหน้า | เจ้าหน้าที่ในยมโลกหน้าตาเป็นอย่างไร | ทำกรรมอะไรตายแล้วไปเป็นเปรต | ถัดไป >> |
|